ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การมีตัวตนบนโลกออนไลน์ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจทุกชนิด โดยเฉพาะโรงแรมที่ต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มการจองออนไลน์ช่องทางอื่นที่ไม่ใช่จากโรงแรมโดยตรง การมีเว็บไซต์ที่ออกแบบดี ไม่เพียงดึงดูดผู้เข้าพักในอนาคตได้เท่านั้น แต่ยังเสริมภาพรวมของแบรนด์โดยรวม เราจะนำคุณผ่านกระบวนการสร้างเว็บไซต์โรงแรมของคุณเองในคู่มือนี้ โดยครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่วิธีการทำงานของเว็บไซต์จนถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงการสำรวจเครื่องมือต่างๆสำหรับการสร้างเว็บไซต์

เว็บไซต์ทำงานอย่างไร

ก่อนที่เริ่มสร้างเว็บไซต์โรงแรมของคุณ การเข้าใจการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตัวเว็บไซต์ในส่วนของหน้าเว็บที่คุณเห็นนั้น จะถูกเก็บไว้บนเว็บเซิร์ฟเวอร์และเข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต ขณะที่คุณป้อน URL ของเว็บไซต์ลงในเบราว์เซอร์ เช่น Chrome เบราว์เซอร์จะส่งคำขอไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ที่ได้ป้อน URL ลงไป ซึ่งเซิร์ฟเวอร์จะตอบกลับมาโดยการส่งหน้าเว็บที่ขอกลับไปยังเบราว์เซอร์ของผู้ใช้และแสดงผลในหน้าจอ

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเว็บไซต์โรงแรมแบ่งเป็นสองส่วนด้วยกัน

1. การพัฒนาส่วนหน้า (Front-End) เป็นส่วนของการแสดงผลเว็บไซต์ หรือที่เราเรียกกันว่า User Interface และ User Experience ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ภาษาหลักๆ คือ

• HTML (Hypertext Markup Language) เป็นภาษาสำหรับวางโครงสร้างเว็บไซต์ ซึ่งใช้ระบบTagในการจำแนกเนื้อหาแต่ละประเภท เช่น ตัวหนังสือ รายการ ตาราง รูปภาพ เป็นต้น
• CSS (Cascading Style Sheets) ใช้สำหรับกำหนดสไตล์ขององค์ประกอบ HTML โดยกำหนดเค้าโครง สี และตัวอักษร รวมถึงคุณลักษณะทางสายตาอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนสีตัวหนังสือให้เป็นสีขาว หรือ การปรับความสูงของรูปภาพ เป็นต้น
• JavaScript เป็นตัวเพิ่มความสามารถให้กับหน้าเว็บเช่นการสร้างแอนิเมชัน การตรวจสอบความถูกต้องของฟอร์ม การปรับปรุงอินเทอร์เฟซของผู้ใช้ และการโต้ตอบกับผู้ใช้ ตัวอย่างการใช้Javascript เช่น เมื่อผู้ใช้งานเลื่อนเว็บลงมาถึงกลางหน้า ให้ทำการแสดงป๊อปอัพเพื่อแสดงโปรโมชั่นพิเศษ เป็นต้น

2. การพัฒนาหลังบ้าน (Back-End) การพัฒนาหลังบ้านเกี่ยวข้องกับเซิร์ฟเวอร์และการจัดการฐานข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เทคโนโลยีและภาษาหลักที่ใช้ในการพัฒนาด้านหลังได้แก่

• ภาษาด้านเซิร์ฟเวอร์ (เช่น Python, Ruby, PHP, Node.js): ภาษาเหล่านี้ใช้เพื่อเขียนโค้ดด้านเซิร์ฟเวอร์ที่ประมวลผลคำขอและสร้างเนื้อหาแบบไดนามิก
• ฐานข้อมูล (เช่น MySQL, PostgreSQL, MongoDB): ฐานข้อมูลเก็บและจัดการข้อมูลของเว็บไซต์ เช่น ข้อมูลผู้ใช้ การจอง และเนื้อหา
• เซิร์ฟเวอร์เว็บ (เช่น Apache, Nginx): เซิร์ฟเวอร์เว็บจัดการคำขอที่เข้ามาจากผู้ใช้และให้บริการหน้าเว็บและทรัพยากรอื่นๆ ในการตอบสนอง

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์มีอะไรบ้าง

เมื่อเราเข้าใจพื้นฐานของการพัฒนาเว็บไซต์แล้ว มาดูเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่นิยมและข้อดีและข้อเสียของแต่ละตัวกัน

Wix

ข้อดี:

• สะดวกและใช้งานง่ายด้วยอินเตอร์เฟซลากและวาง
• มีเทมเพลตหลายรูปแบบที่ออกแบบมาสำหรับโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
• มีบริการโฮสติ้งและการลงทะเบียนจดโดเมนที่มาพร้อม ทำให้กระบวนการสร้างเว็บไซต์ของคุณง่ายขึ้น

ข้อเสีย:

• ตัวเลือกปรับแต่งจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ
• บางคุณสมบัติอาจต้องใช้การสมัครสมาชิกที่เสียค่าใช้จ่าย
• ความยืดหยุ่นน้อยสำหรับผู้ใช้ขั้นสูงหรือนักพัฒนา

WordPress

ข้อดี:

• สามารถปรับแต่งได้มากด้วยธีมและปลั๊กอินที่มีอยู่หลายพัน
• มีการสนับสนุนจากชุมชนและเอกสารที่หลากหลาย
• เหมาะสำหรับการขยายขนาดตั้งแต่โรงแรมขนาดเล็กจนถึงธุรกิจโรงแรมขนาดใหญ่

ข้อเสีย:

• การตั้งค่าเริ่มต้นอาจซับซ้อนมากขึ้นสำหรับผู้เริ่มต้น
• ต้องมีการอัปเดตและดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
• ตัวเลือกปรับแต่งอาจต้องใช้ความรู้ในการเขียนโค้ด

Joomla

ข้อดี:

• มีความยืดหยุ่นและสามารถขยายความสามารถได้ เหมาะสำหรับการสร้างเว็บไซต์ที่ซับซ้อน
• ระบบการจัดการผู้ใช้และระบบการอนุญาตที่แข็งแกร่งเหมาะสำหรับโรงแรมที่มีพนักงานหลายคน
• มีชุมชนผู้ใช้งานและตลาดธีมที่ใหญ่

ข้อเสีย:

• มีความซับซ้อนมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น
• มีกลุ่มผู้ใช้น้อยกว่า WordPress ส่งผลให้มีทรัพยากรและการสนับสนุนที่น้อยลง
• อาจต้องใช้ความเชี่ยวชาญเพิ่มเติมในการปรับแต่งและดูแลรักษา

Next.js

ข้อดี:

• สร้างบน React.js ให้ประสบการณ์การพัฒนาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
• แสดงผลแบบเซิร์ฟเวอร์ไซด์สำหรับประสิทธิภาพในการทำ SEO ที่ดีขึ้น
• เหมาะสำหรับการสร้างอินเตอร์เฟซผู้ใช้ที่ไดนามิกและมีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย:

• ต้องมีความรู้ในด้าน JavaScript และ React.js
• ไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้เริ่มต้นเมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น
• เอกสารและการสนับสนุนจากชุมชนมีน้อยกว่าแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมเช่น WordPress

บทความนี้เราได้เรียนรู้ว่าเว็บไซต์ทำงานยังไง การพัฒนาเว็บไซต์ประกอบไปด้วยส่วนไหนและต้องรู้ภาษาอะไรบ้าง และ เครื่องมือต่างๆในการพัฒนาเว็บไซต์ ทั้งนี้ทั้งนั้นการพัฒนาเว็บไซต์ที่ดีนั้น ต้องการความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ เพื่อให้เว็บไซต์ออกมาดีที่สุด เว็บไซต์โหลดไม่ช้า หน้าตาสวยงามดึงดูดแขก