logo
← Back to blogs

Published: 2024-11-26

20 อย่างที่โรงแรมต้องรับมือ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย

20 อย่างที่โรงแรมต้องรับมือ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย

20 อย่างที่โรงแรมต้องรับมือ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย

อุตสาหกรรมโรงแรม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของภาคการท่องเที่ยวและการเดินทาง มักเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มีการลดการใช้จ่ายของผู้บริโภค การว่างงานที่เพิ่มขึ้น และการลดงบประมาณของธุรกิจ ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมนี้ สำหรับโรงแรม การลดลงของการเดินทาง ความอ่อนไหวต่อราคา และแรงกดดันในการดำเนินงานอาจส่งผลเสียอย่างรุนแรง การเข้าใจปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมในการปรับตัวและเตรียมพร้อมสำหรับการฟื้นตัว ด้านล่างนี้คือปัญหาสำคัญที่อุตสาหกรรมโรงแรมเผชิญในช่วงเศรษฐกิจถดถอย พร้อมรายละเอียดผลกระทบในแต่ละด้าน

20 อย่างที่โรงแรมต้องรับมือ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย


1. อัตราการเข้าพักลดลง

ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย นักท่องเที่ยวทั้งเพื่อพักผ่อนและธุรกิจมักลดการเดินทาง ส่งผลให้การจองห้องพักลดลง แม้แต่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมและโรงแรมในเมืองใหญ่ก็ยังเผชิญกับอัตราการเข้าพักที่ลดลง ความผันผวนตามฤดูกาลยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น ส่งผลให้โรงแรมขาดรายได้และกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรโดยรวม

2. รายได้เฉลี่ยต่อวัน (ADR) ลดลง

เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนน้อยลง โรงแรมมักลดราคาห้องพัก ซึ่งทำให้ ADR ลดลง ส่งผลให้กำไรลดลง การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงระหว่างโรงแรมทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลง และการฟื้นตัวทางการเงินเป็นไปได้ยาก

3. รายได้จากบริการเสริมลดลง

ผู้เข้าพักลดการใช้จ่ายในบริการเสริม เช่น ร้านอาหาร สปา และสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหราอื่นๆ พื้นที่จัดงาน เช่น ห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยง ซึ่งเคยเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ กลับว่างเปล่าเนื่องจากธุรกิจและบุคคลทั่วไปลดการจัดกิจกรรม

4. การเดินทางเพื่อธุรกิจลดลง

การเดินทางเพื่อธุรกิจเป็นหนึ่งในสิ่งแรกที่ถูกตัดออกในช่วงเศรษฐกิจถดถอย บริษัทลดงบประมาณการเดินทางและหันไปใช้การประชุมเสมือนแทน การยกเลิกการประชุม การแสดงสินค้า และกิจกรรมส่งเสริมทีมส่งผลกระทบอย่างมากต่อรายได้ของโรงแรม โดยเฉพาะโรงแรมที่พึ่งพาลูกค้ากลุ่มธุรกิจ

5. การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น

เมื่อนักท่องเที่ยวน้อยลง โรงแรมต้องแข่งขันอย่างหนักเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มเดิม การแข่งขันด้านราคาทำให้โรงแรมต้องลดราคาลงอย่างมาก ที่พักราคาประหยัดและตัวเลือกที่พักทางเลือก เช่น Airbnb มักได้เปรียบในสถานการณ์นี้

6. การลดจำนวนพนักงาน

เพื่อรับมือกับรายได้ที่ลดลง โรงแรมมักใช้มาตรการลดต้นทุน เช่น การเลิกจ้างและลดเวลาทำงาน พนักงานที่เหลือต้องรับผิดชอบงานเพิ่มเติม ซึ่งอาจนำไปสู่ความเหนื่อยล้าและลดคุณภาพการบริการ ซึ่งส่งผลต่อประสบการณ์ของแขกและชื่อเสียงของแบรนด์

7. การเลื่อนปรับปรุงและการลงทุน

ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย โรงแรมมักเลื่อนการปรับปรุง การอัปเกรด และการขยายตัว เพื่อรักษากระแสเงินสด สิ่งนี้อาจส่งผลให้สิ่งอำนวยความสะดวกล้าสมัยและลดความพึงพอใจของแขก

8. ปัญหาหนี้สินและการเงิน

โรงแรมหลายแห่งมีภาระหนี้สินที่สูง ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย รายได้ที่ลดลงทำให้ยากต่อการชำระหนี้และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน บางแห่งอาจถูกยึดทรัพย์สินหรือขายในราคาที่ต่ำลง

9. การสูญเสียกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ

เศรษฐกิจที่อ่อนแอมักนำไปสู่ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและงบประมาณการเดินทางที่เข้มงวดขึ้น การท่องเที่ยวระหว่างประเทศลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ

10. พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลง

ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย นักเดินทางให้ความสำคัญกับความคุ้มค่ามากกว่าความหรูหรา โรงแรมราคาประหยัดหรือระดับกลางมักได้รับความนิยม ขณะที่สถานประกอบการหรูหราประสบปัญหาการลดลงอย่างไม่สมส่วน

11. ความภักดีต่อแบรนด์ลดลง

ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปสู่การประหยัดค่าใช้จ่าย แม้ว่าจะต้องละทิ้งโปรแกรมความภักดีก็ตาม นักเดินทางอาจเลือกตัวเลือกที่ถูกกว่า ทำให้โรงแรมต้องสร้างความภักดีใหม่หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัว

12. ความท้าทายด้านการดำเนินงาน

โรงแรมเผชิญกับความเครียดในการดำเนินงานเนื่องจากการลดทรัพยากรเพื่อลดต้นทุน ซึ่งรวมถึงการลดความถี่ในการทำความสะอาด จำกัดบริการรูมเซอร์วิส และลดสิ่งอำนวยความสะดวก

13. ผลกระทบต่อพันธมิตรระยะยาว

พันธมิตรทางธุรกิจ เช่น สัญญากับบริษัทท่องเที่ยวและองค์กร มักถูกเจรจาใหม่หรือยกเลิกในช่วงเศรษฐกิจถดถอย สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อแหล่งรายได้หลักของโรงแรม

14. กระแสเงินสดติดลบ

รายได้ที่ลดลงจากการจองและบริการทำให้โรงแรมหลายแห่งต้องประสบปัญหากระแสเงินสดติดลบ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการชำระเงินซัพพลายเออร์ รักษาสิ่งอำนวยความสะดวก และลงทุนในการปรับปรุง

15. ความไม่แน่นอนและความยากในการคาดการณ์

เศรษฐกิจถดถอยไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้โรงแรมวางแผนงบประมาณ จัดการสินค้าคงคลัง และจัดสรรทรัพยากรได้ยาก

16. แรงกดดันในการเสนอนโยบายยืดหยุ่น

แขกเรียกร้องนโยบายการจองและการยกเลิกที่ยืดหยุ่นในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน แม้ว่าสิ่งนี้จะช่วยสร้างความไว้วางใจ แต่ก็ลดความสามารถในการคาดการณ์รายได้

17. การลดลงของกลุ่มโรงแรมหรู

โรงแรมและรีสอร์ทหรูเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากลูกค้าหลักซึ่งเป็นกลุ่มรายได้สูงลดการใช้จ่ายอย่างไม่จำเป็น

18. การเพิ่มขึ้นของการประชุมเสมือนจริง

การนำการประชุมและกิจกรรมเสมือนมาใช้ลดความจำเป็นในการเดินทางเพื่อธุรกิจ โรงแรมสูญเสียรายได้จากการเข้าพักขององค์กรและการจัดกิจกรรม

19. การลดลงของการจองแบบกลุ่ม

การจองแบบกลุ่มสำหรับงานแต่งงาน การรวมตัว และการประชุมลดลงอย่างมาก มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมหรือข้อจำกัดทางเศรษฐกิจยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง

20. ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์และการรับรู้ของแบรนด์

การลดราคามากเกินไปในช่วงเศรษฐกิจถดถอยอาจทำให้มูลค่าที่รับรู้ของแบรนด์ลดลง โดยเฉพาะสำหรับโรงแรมหรู


บทสรุป

ภาวะเศรษฐกิจถดถอยสร้างความท้าทายอย่างมากให้กับอุตสาหกรรมโรงแรม ตั้งแต่การลดลงของอัตราการเข้าพักและรายได้ ไปจนถึงแรงกดดันด้านการแข่งขันและการดำเนินงาน แม้ว่าสถานการณ์จะเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่การตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการค้นหาแนวทางแก้ไข โรงแรมที่สามารถปรับตัวอย่างเหมาะสมและวางแผนเชิงกลยุทธ์จะสามารถฟื้นตัวและก้าวข้ามวิกฤตไปสู่ความสำเร็จได้ในระยะยาว

อัพเดทบทความล่าสุด

เพียงติดตามข่าวสารและอัพเดตล่าสุดจาก Soraso

*ในการกดติดตาม คุณยอมรับเงื่อนไขการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

total

มาดูกันว่าซอฟต์แวร์โรงแรม Soraso สามารถยกระดับโรงแรมของคุณได้อย่างไร

ดูการทำงานจริงจากผู้เชี่ยวชาญซอฟต์แวร์ของเราที่พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ที่สุดเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงการจัดการโรงแรมของคุณ ฟรี!

เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ของคุณบนเว็บไซต์ของเรา วิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ และช่วยในการตลาดของเรา เมื่อคลิก 'ยอมรับ' คุณยินยอมให้มีการเก็บคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราใช้คุกกี้และตัวเลือกของคุณเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเรา โปรดดูที่ นโยบายคุกกี้.