logo
← Back to blogs

Published: 2024-11-13

Revenue Management ในธุรกิจโรงแรมคืออะไร?

Revenue Management ในธุรกิจโรงแรมคืออะไร?

Revenue Management ในธุรกิจโรงแรมคืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์

ในอุตสาหกรรมโรงแรมที่มีการแข่งขันสูง การเพิ่มรายได้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำให้ห้องพักเต็มเท่านั้น แต่ยังต้องใช้กลยุทธ์การตั้งราคา การกระจายห้อง และการจัดการความต้องการ ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้กรอบของการจัดการรายได้ (Revenue Management) การจัดการรายได้เป็นกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ซึ่งมุ่งเน้นการขายสินค้าที่เหมาะสมให้กับลูกค้าที่เหมาะสม ในเวลาที่เหมาะสม และในราคาที่เหมาะสม บทความนี้จะอธิบายถึงการจัดการรายได้ว่าคืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับโรงแรม และวิธีที่โรงแรมสามารถใช้การจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มกำไรและความพึงพอใจของแขก


ทำความเข้าใจกับการจัดการรายได้

การจัดการรายได้ในอุตสาหกรรมโรงแรมคือกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพรายได้ของโรงแรมโดยการกำหนดราคาห้องพักอย่างมีกลยุทธ์ตามความต้องการ สภาพตลาด และพฤติกรรมของแขก ซึ่งต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์ความต้องการและปรับราคาห้องพักแบบไดนามิก เพื่อให้สามารถขายห้องได้ในราคาที่สูงสุดโดยไม่เสียอัตราการเข้าพัก

Revenue Management

องค์ประกอบหลักของการจัดการรายได้:

  1. การคาดการณ์ความต้องการ: การทำนายจำนวนห้องที่จะถูกจองในอนาคต โดยอิงจากข้อมูลในอดีต แนวโน้มของตลาด และเหตุการณ์ภายนอก
  2. กลยุทธ์การตั้งราคา: การปรับอัตราห้องพักตามความต้องการเพื่อเพิ่มรายได้ต่อห้อง
  3. การจัดการช่องทางการขาย: การเลือกและบริหารช่องทางการขาย เช่น เว็บไซต์ของโรงแรม ตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ และการจองตรง
  4. การควบคุมสินค้าคงคลัง: การตัดสินใจจัดสรรห้องให้กับช่องทางการขายและระดับราคาที่แตกต่างกัน

ความสำคัญของการจัดการรายได้ในโรงแรม

การจัดการรายได้ช่วยให้โรงแรมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการตั้งราคาและเพิ่มรายได้ได้ ประโยชน์หลักๆ ได้แก่:

  1. เพิ่มกำไร: โดยการปรับราคาให้สอดคล้องกับความต้องการ โรงแรมสามารถเพิ่มรายได้ต่อห้องที่มีอยู่ (RevPAR)
  2. ปรับตำแหน่งการแข่งขัน: การจัดการรายได้ช่วยให้โรงแรมกำหนดอัตราที่แข่งขันได้และมีกำไร ช่วยให้โรงแรมโดดเด่นในตลาด
  3. การคาดการณ์ความต้องการที่แม่นยำขึ้น: การคาดการณ์ความต้องการที่แม่นยำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดตารางพนักงาน การควบคุมสินค้าคงคลัง และการจัดทำงบประมาณ
  4. ความพึงพอใจของแขกที่เพิ่มขึ้น: โรงแรมสามารถเสนอราคาที่แข่งขันได้โดยไม่ลดคุณภาพการบริการ ทำให้สร้างความพึงพอใจแก่แขกและส่งเสริมให้กลับมาใช้บริการอีก

วิธีการทำงานของการจัดการรายได้ในโรงแรม

การจัดการรายได้เป็นกระบวนการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลซึ่งมีหลายขั้นตอน โดยทั่วไปจะทำงานดังนี้:

ขั้นตอนที่ 1: การเก็บข้อมูล

โรงแรมเก็บข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น รูปแบบการจองในอดีต สภาพตลาด อัตราค่าห้องของคู่แข่ง ความชอบของแขก และเวลาการจองล่วงหน้า ข้อมูลเหล่านี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของแขกและช่วยให้โรงแรมตัดสินใจเรื่องการตั้งราคาได้อย่างมีข้อมูล

ขั้นตอนที่ 2: การคาดการณ์ความต้องการ

โรงแรมใช้ข้อมูลที่รวบรวมมาเพื่อคาดการณ์ความต้องการห้องในอนาคต ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์แนวโน้มการจองในอดีตและเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเพื่อประมาณความต้องการ เช่น หากมีงานเทศกาลในท้องถิ่น โรงแรมสามารถคาดหวังความต้องการเพิ่มขึ้นและปรับราคาให้สอดคล้องกัน

ขั้นตอนที่ 3: การแบ่งกลุ่มตลาด

กลุ่มแขกต่างๆ มีพฤติกรรมการจองและความอ่อนไหวต่อราคาที่แตกต่างกัน การจัดการรายได้แบ่งแขกออกเป็นกลุ่ม (เช่น นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ครอบครัว) และกำหนดราคาพร้อมโปรโมชั่นสำหรับแต่ละกลุ่มเพื่อเพิ่มรายได้

ขั้นตอนที่ 4: การตั้งราคาแบบไดนามิก

โรงแรมปรับอัตราห้องพักแบบเรียลไทม์ตามปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการ ระยะเวลาการจองล่วงหน้า และราคาของคู่แข่ง ซึ่งเรียกว่าการตั้งราคาแบบไดนามิก ในช่วงที่มีความต้องการสูง ราคาจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ช่วงที่มีความต้องการต่ำ ราคาจะถูกปรับลดลงเพื่อดึงดูดการจอง

ขั้นตอนที่ 5: การจัดการช่องทางการขาย

โรงแรมเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางการขายที่ใช้จำหน่ายห้อง เช่น ตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ (OTAs) เว็บไซต์ของโรงแรม และการขายตรง ผู้จัดการรายได้จะตัดสินใจเกี่ยวกับช่องทางที่ควรให้ความสำคัญตามความต้องการ ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่าย และความสามารถในการทำกำไร

ขั้นตอนที่ 6: การควบคุมสินค้าคงคลัง

ผู้จัดการรายได้ควบคุมความพร้อมของห้องในแต่ละช่องทางการขายเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในช่วงเวลานั้นๆ เช่น ในช่วงที่มีความต้องการสูง อาจจำกัดห้องในช่องทางราคาถูกเพื่อขายในราคาที่สูงขึ้น

demand


ตัวชี้วัดหลักในการจัดการรายได้ของโรงแรม

การเข้าใจการจัดการรายได้จำเป็นต้องติดตามตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก (KPIs) หลายประการเพื่อช่วยวัดความสำเร็จของกลยุทธ์:

  1. รายได้ต่อห้องว่าง (RevPAR): คำนวณโดยการหารรายได้รวมต่อห้องด้วยจำนวนห้องที่ว่าง ซึ่งช่วยบ่งชี้ประสิทธิภาพด้านการสร้างรายได้ของโรงแรม
  2. อัตราค่าห้องเฉลี่ยรายวัน (ADR): คำนวณโดยการหารรายได้รวมของห้องด้วยจำนวนห้องที่ขาย ช่วยสะท้อนกลยุทธ์การตั้งราคาของโรงแรม
  3. อัตราการเข้าพัก: เปอร์เซ็นต์ของห้องที่ถูกจองในช่วงเวลาที่กำหนด อัตราการเข้าพักสูงแสดงถึงความต้องการที่แข็งแกร่ง ในขณะที่อัตราต่ำบ่งบอกถึงความจำเป็นในการใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขาย
  4. กำไรจากการดำเนินงานรวมต่อห้องว่าง (GOPPAR): วัดผลกำไรโดยรวมจากทั้งรายได้และค่าใช้จ่ายต่อห้องว่าง
  5. รายได้รวมต่อห้องว่าง (TRevPAR): รวมรายได้ทั้งหมด เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และบริการเสริม ไม่ใช่แค่รายได้จากห้อง

เทคนิคและเครื่องมือสำหรับการจัดการรายได้ที่มีประสิทธิภาพ

มีเทคนิคหลายอย่างที่ช่วยให้โรงแรมใช้การจัดการรายได้ได้สำเร็จ:

1. การจัดการอัตรา (Yield Management)

การจัดการอัตรามุ่งเน้นการขายห้องในอัตราที่สูงที่สุด(Yield Management) โดยการปรับราคาตามความต้องการและสินค้าคงคลัง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มรายได้ต่อห้องได้ดี โดยเฉพาะสำหรับโรงแรมที่มีจำนวนห้องจำกัด

2. การจัดการการจองเกินจำนวน

การจองเกินจำนวนเป็นวิธีการที่ใช้ในการจัดการรายได้เพื่อชดเชยการยกเลิกนาทีสุดท้ายและการไม่เข้าพัก อย่างไรก็ตาม ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่ดีต่อชื่อเสียงของโรงแรม

3. ข้อจำกัดระยะเวลาการเข้าพัก

โรงแรมใช้ข้อกำหนดการเข้าพักขั้นต่ำหรือสูงสุดเพื่อควบคุมสินค้าค

งคลัง เช่น ในช่วงที่มีความต้องการสูง โรงแรมอาจกำหนดข้อกำหนดการเข้าพักขั้นต่ำ เพื่อให้ได้รายได้โดยรวมที่สูงขึ้น

4. การแบ่งระดับราคา

การแบ่งระดับราคาคือการตั้งกฎเพื่อแยกแยะราคาในแต่ละกลุ่มลูกค้า เช่น ลูกค้าที่จองล่วงหน้าอาจได้รับราคาที่ต่ำกว่า ในขณะที่ผู้จองนาทีสุดท้ายต้องจ่ายในอัตราที่สูงขึ้น

5. ซอฟต์แวร์การจัดการรายได้

ซอฟต์แวร์การจัดการรายได้ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อช่วยให้โรงแรมตั้งราคาแบบไดนามิก ซอฟต์แวร์เหล่านี้ช่วยให้การปรับราคาง่ายขึ้น เช่น IDeaS, Duetto และ Revinate


ความท้าทายในการจัดการรายได้ของโรงแรม

แม้ว่าการจัดการรายได้จะมีความสำคัญ แต่ก็มีความท้าทายหลายประการ:

  • ข้อมูลจำนวนมากเกินไป: การจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ต้องใช้เครื่องมือและความเชี่ยวชาญขั้นสูง ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับโรงแรมขนาดเล็ก
  • ความผันผวนของตลาด: ปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ระดับโลก อาจทำให้ความต้องการเปลี่ยนแปลงได้ยากที่จะคาดการณ์
  • การปรับสมดุลระหว่างกำไรและความพึงพอใจของแขก: การตั้งราคาที่สูงเกินไปอาจทำให้แขกปฏิเสธ ในขณะที่การตั้งราคาต่ำเกินไปจะลดกำไร
  • การแข่งขัน: โรงแรมจำเป็นต้องติดตามราคาของคู่แข่งและแนวโน้มของตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งราคาสูงเกินหรือการลดราคามากเกินไป

ตัวอย่างการจัดการรายได้ในทางปฏิบัติ

ตัวอย่างที่ 1: การตั้งราคาในช่วงเทศกาล

ในช่วงเทศกาลวันหยุด โรงแรมริมชายหาดคาดว่าความต้องการสูง จะเพิ่มอัตราค่าห้องและกำหนดข้อกำหนดการเข้าพักขั้นต่ำสามคืน เพื่อให้แขกจ่ายในราคาที่สูงในช่วงเทศกาลและเพิ่มรายได้สูงสุด

ตัวอย่างที่ 2: อัตราวันธรรมดาและวันสุดสัปดาห์

โรงแรมในเมืองมีอัตราการเข้าพักสูงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มากกว่าวันธรรมดา เพื่อเพิ่มการจองในวันธรรมดา จึงเสนอส่วนลดสำหรับการเข้าพักวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี เพื่อดึงดูดนักธุรกิจให้จองในวันที่มีการเข้าพักต่ำ

ตัวอย่างที่ 3: การตั้งราคาสำหรับเหตุการณ์ท้องถิ่น

โรงแรมใกล้ศูนย์ประชุมคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นในช่วงการประชุมสำคัญ จึงปรับราคาสูงขึ้นและปิดช่องทางการขายในราคาต่ำเพื่อเพิ่มรายได้ในช่วงเหตุการณ์


บทสรุป: การใช้การจัดการรายได้เพื่อความสำเร็จของโรงแรม

การจัดการรายได้เป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับโรงแรมที่ต้องการคงความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มผลกำไร ด้วยการใช้การวิเคราะห์ข้อมูล การตั้งราคาแบบไดนามิก และการตลาดเฉพาะเจาะจง โรงแรมสามารถขายห้องที่เหมาะสมในราคาที่เหมาะสม เพิ่มรายได้โดยไม่ลดความพึงพอใจของแขก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมขนาดเล็กหรือเครือข่ายขนาดใหญ่ การนำแนวทางการจัดการรายได้มาใช้จะช่วยให้เพิ่มอัตราการเข้าพัก ดึงดูดแขกเพิ่ม และปรับปรุงผลประกอบการโดยรวม

การนำเครื่องมือและเทคนิคการจัดการรายได้มาใช้แม้จะต้องการการลงทุนในระยะเริ่มต้น แต่ผลประโยชน์ระยะยาวในการเติบโตของรายได้และประสิทธิภาพในการดำเนินงานทำให้มันคุ้มค่ากับความพยายาม

อัพเดทบทความล่าสุด

เพียงติดตามข่าวสารและอัพเดตล่าสุดจาก Soraso

*ในการกดติดตาม คุณยอมรับเงื่อนไขการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

total

มาดูกันว่าซอฟต์แวร์โรงแรม Soraso สามารถยกระดับโรงแรมของคุณได้อย่างไร

ดูการทำงานจริงจากผู้เชี่ยวชาญซอฟต์แวร์ของเราที่พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ที่สุดเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงการจัดการโรงแรมของคุณ ฟรี!

เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ของคุณบนเว็บไซต์ของเรา วิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ และช่วยในการตลาดของเรา เมื่อคลิก 'ยอมรับ' คุณยินยอมให้มีการเก็บคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราใช้คุกกี้และตัวเลือกของคุณเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเรา โปรดดูที่ นโยบายคุกกี้.