ADR คืออะไร?

ADR หรือ Average Daily Rate หมายถึง อัตราห้องพักเฉลี่ยต่อห้อง เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่ใช้ในอุตสาหกรรมโรงแรม เพื่อวัดผลประกอบการจากการขายห้องพัก

สูตรการคำนวณ ADR

ADR = รายได้จากห้องพักทั้งหมด / จำนวนห้องที่ขาย

ตัวอย่าง:

สมมติว่าโรงแรมมีห้องพักทั้งหมด 100 ห้อง ขายห้องพักได้ 70 ห้อง ในราคาเฉลี่ย 2,500 บาท รวมเป็นรายได้ 175,000 บาท

ADR = 175,000 / 70 = 2,500 บาท

แต่อย่าคำนวณเองให้ยุ่งยากเลย ใช้เครื่องมือคำนวณฟรีได้ที่นี่

ADR สำคัญอย่างไร

ใช้วัดผลการดำเนินงาน

ADR แสดงให้เห็นว่าโรงแรมสามารถขายห้องพักในราคาเฉลี่ยเท่าไร

ใช้เปรียบเทียบกับคู่แข่ง

ADR ช่วยให้โรงแรมเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับโรงแรมอื่น ๆ ในตลาดเดียวกัน

ใช้วิเคราะห์แนวโน้ม

ADR ช่วยให้โรงแรมวิเคราะห์แนวโน้มของธุรกิจและตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล

ใช้ติดตามผลลัพธ์

ADR ช่วยให้โรงแรมติดตามผลลัพธ์ของกลยุทธ์การตลาดและการขาย

ADR ใครควรดู?

เจ้าของโรงแรม

ADR ช่วยให้เจ้าของโรงแรมประเมินผลการดำเนินงานของโรงแรมและตัดสินใจลงทุน

ผู้จัดการโรงแรม

ADR ช่วยให้ผู้จัดการโรงแรมวัดผลประสิทธิภาพของทีมและปรับปรุงกลยุทธ์การดำเนินงาน

นักวิเคราะห์การเงิน

ADR ช่วยให้นักวิเคราะห์การเงินประเมินมูลค่าของโรงแรม

ตัวอย่าง:

• โรงแรม A มี ADR 2,500 บาท โรงแรม B มี ADR 2,000 บาท แสดงว่า โรงแรม A มีประสิทธิภาพในการขายห้องพักมากกว่าโรงแรม B
• ADR ของโรงแรม C เพิ่มขึ้นจาก 1,800 บาท เป็น 2,200 บาท แสดงว่า ผลประกอบการของโรงแรม C ดีขึ้น
• ADR ของอุตสาหกรรมโรงแรมโดยรวมลดลง แสดงว่า อุตสาหกรรมโรงแรมกำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัว

การอ่าน ADR

ADR สูง แสดงว่า โรงแรมสามารถขายห้องพักในราคาสูง สะท้อนให้เห็นถึง:

• ความต้องการห้องพักที่สูง
• กลยุทธ์การกำหนดราคาที่มีประสิทธิภาพ
• คุณภาพของห้องพักและบริการที่ดึงดูดลูกค้า

ตัวอย่าง:

• โรงแรม A ตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม มีจำนวนผู้เข้าพักสูง ADR ของโรงแรม A ย่อมสูงกว่าโรงแรม B ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ห่างไกล
• โรงแรม B นำเสนอแพ็คเกจห้องพักพร้อมบริการสปา ADR ของโรงแรม B ย่อมสูงกว่าโรงแรม C ที่ไม่มีบริการพิเศษ

ADR ต่ำ แสดงว่า โรงแรมอาจจำเป็นต้องลดราคาห้องพักเพื่อดึงดูดลูกค้า อาจมีสาเหตุมาจาก:

• อุปสงค์ที่ต่ำ
• การแข่งขันที่สูง
• กลยุทธ์การกำหนดราคาที่ไม่เหมาะสม
• คุณภาพของห้องพักและบริการที่ด้อยกว่า

ตัวอย่าง:

• โรงแรม C ตั้งอยู่ในย่านที่มีโรงแรมจำนวนมาก ADR ของโรงแรม C ย่อมต่ำกว่าโรงแรม A และ B
• โรงแรม D มีห้องพักเก่า สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ครบครัน ADR ของโรงแรม D ย่อมต่ำกว่าโรงแรม E ที่มีห้องพักใหม่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ข้อจำกัดของ ADR

ไม่ได้วัดผลประกอบการโดยรวม

ADR บอกเพียงข้อมูลเกี่ยวกับรายได้จากการขายห้องพัก ไม่ได้วัดค่าใช้จ่ายหรือผลกำไร

ตัวอย่าง:

โรงแรม A มี ADR 2,500 บาท โรงแรม B มี ADR 2,200 บาท แต่โรงแรม B มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่ำกว่า โรงแรม B อาจมีผลกำไรสุทธิมากกว่า

ไม่ได้วัดความพึงพอใจของลูกค้า

ADR ไม่ได้วัดความพึงพอใจของลูกค้า เพียงแค่บอกราคาเฉลี่ยต่อห้องที่ขายเท่านั้น

ตัวอย่าง:

• โรงแรม C มี ADR 2,000 บาท ลูกค้าอาจไม่พอใจกับราคาห้องพัก
• โรงแรม D มี ADR 1,800 บาท ลูกค้าอาจพอใจกับราคาห้องพัก แต่ไม่พอใจกับคุณภาพของบริการ

ไม่ได้วัดคุณภาพของบริการ

ADR ไม่ได้วัดคุณภาพของบริการโดยตรง

ตัวชี้วัดอื่นๆ ที่คุณอาจจะสนใจ: รวมKPIsที่สำคัญสำหรับโรงแรม

อ่านเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการเพิ่มADRได้ที่นี่