GOPPAR คืออะไร?

GOPPAR ย่อมาจาก Gross Operating Profit Per Available Room หมายถึง กำไรจากการดำเนินงานขั้นต้นต่อห้องว่าง เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพ และความสำเร็จของธุรกิจโรงแรม

วิธีการคำนวณ GOPPAR

GOPPAR = (รายได้รวม - ต้นทุนขาย - ต้นทุนการดำเนินงาน) / จำนวนห้องว่าง

ตัวอย่าง

สมมติว่าโรงแรมมีรายได้รวม 100,000 บาท ต้นทุนขาย 40,000 บาท ต้นทุนการดำเนินงาน 30,000 บาท และจำนวนห้องว่าง 50 ห้อง

GOPPAR = (100,000 - 40,000 - 30,000) / 50

GOPPAR = 600 บาทต่อห้อง

แต่อย่าคำนวณเองให้ยุ่งยากเลย ใช้เครื่องมือคำนวณฟรีได้ที่นี่

ความสำคัญของ GOPPAR

วัดผลกำไร

GOPPAR ช่วยให้โรงแรมวัดผลกำไรจากการดำเนินงาน โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เช่น ค่าดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา

เปรียบเทียบประสิทธิภาพ

GOPPAR ช่วยให้โรงแรมเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับคู่แข่ง

วิเคราะห์กลยุทธ์

GOPPAR ช่วยให้โรงแรมวิเคราะห์ว่ากลยุทธ์ด้านราคา การตลาด และการจัดการ มีผลต่อผลกำไรอย่างไร

ตัดสินใจ

GOPPAR ช่วยให้โรงแรมตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุน การกำหนดราคา และการจัดการ

ปัจจัยที่มีผลต่อ GOPPAR

อัตราเข้าพัก

GOPPAR จะเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราเข้าพักสูง

ราคาห้องพัก

GOPPAR จะเพิ่มขึ้น เมื่อราคาห้องพักสูง

ต้นทุน

GOPPAR จะลดลง เมื่อต้นทุนลดลง

ประเภทของโรงแรม

รีสอร์ท โรงแรมธุรกิจ โรงแรมราคาประหยัด แต่ละประเภทมี GOPPAR ที่แตกต่างกัน

กลุ่มลูกค้า

นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ครอบครัว แต่ละกลุ่มลูกค้ามี GOPPAR ที่แตกต่างกัน

ช่วงเวลา

ฤดูท่องเที่ยว วันหยุดนักขัตฤกษ์ ช่วงเวลามีผลต่อ GOPPAR

กลยุทธ์ทางธุรกิจ

โปรโมชั่น ราคา บริการเสริม กลยุทธ์ทางธุรกิจมีผลต่อ GOPPAR

วิธีการวิเคราะห์ GOPPAR

1. เปรียบเทียบ GOPPAR กับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

• วิเคราะห์ว่า GOPPAR เพิ่มขึ้นหรือลดลง
• ระบุสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง
• หาวิธีแก้ไข

ตัวอย่าง

โรงแรม A พบว่า GOPPAR ในช่วงเดือนมกราคม 2567 ลดลงจาก 600 บาท เป็น 500 บาท สาเหตุอาจมาจากการแข่งขันที่สูงขึ้น โรงแรมควรพิจารณากลยุทธ์ด้านราคาและการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า

2. เปรียบเทียบ GOPPAR กับคู่แข่ง

• วิเคราะห์ว่า GOPPAR ของโรงแรม สูงหรือต่ำกว่าคู่แข่ง
• ระบุจุดแข็งและจุดอ่อน
• หาวิธีปรับปรุง

ตัวอย่าง

โรงแรม B เปรียบเทียบ GOPPAR กับคู่แข่ง พบว่า GOPPAR ต่ำกว่า โรงแรมควรพิจารณากลยุทธ์ เพื่อเพิ่มราคาห้องพัก หรือลดต้นทุน

3. วิเคราะห์ GOPPAR แยกตามประเภทห้องพัก ประเภทลูกค้า หรือช่วงเวลา

• วิเคราะห์ว่า GOPPAR ของประเภทห้องพัก ประเภทลูกค้า หรือช่วงเวลาใด สูงหรือต่ำ
• ระบุสาเหตุ
• หาวิธีปรับปรุง

ตัวอย่าง

โรงแรม C วิเคราะห์ GOPPAR แยกตามประเภทห้องพัก พบว่า GOPPAR ของห้องสวีท สูงกว่าห้องมาตรฐาน สาเหตุอาจมาจากจำนวนผู้เข้าพัก และราคาห้องพัก โรงแรมควรพิจารณากลยุทธ์ เพื่อดึงดูดลูกค้า หรือปรับราคาห้องพัก

4. ระบุปัญหาและหาแนวทางแก้ไข

• วิเคราะห์ GOPPAR อย่างละเอียด
• ระบุปัญหา
• หาวิธีแก้ไข

ตัวอย่าง

โรงแรม D วิเคราะห์ GOPPAR อย่างละเอียด พบว่าต้นทุนอาหารสูง โรงแรมควรพิจารณากลยุทธ์ เพื่อลดต้นทุนอาหาร เช่น เปลี่ยนเมนูอาหาร หรือหาผู้จำหน่ายใหม่

5. วิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ

วิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อ GOPPAR เช่น อัตราเข้าพัก ราคาห้องพัก ต้นทุน ประเภทของโรงแรม กลุ่มลูกค้า ช่วงเวลา กลยุทธ์ทางธุรกิจ

เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ GOPPAR

• ซอฟต์แวร์บริหารจัดการโรงแรม
• สเปรดชีต
• โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูล

ข้อจำกัดของ GOPPAR (Gross Operating Profit Per Available Room)

GOPPAR เป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ แต่มีข้อจำกัด ดังนี้

1. ไม่ได้บ่งบอกถึงผลกำไรสุทธิ: GOPPAR ไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เช่น ค่าดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา

2. ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก: GOPPAR ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกหลายประการ เช่น ฤดูท่องเที่ยว วันหยุดนักขัตฤกษ์ สภาพเศรษฐกิจ การแข่งขัน

3. ไม่ได้บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของพนักงาน: GOPPAR ไม่ได้บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของพนักงาน

4. ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่น: GOPPAR เป็นตัวชี้วัดที่เฉพาะเจาะจงสำหรับธุรกิจโรงแรม

ตัวอย่างข้อจำกัดของ GOPPAR

• โรงแรม A มี GOPPAR สูง แต่ผลกำไรสุทธิอาจต่ำ หากมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ สูง
• โรงแรม B มี GOPPAR เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูท่องเที่ยว แต่ไม่ได้หมายความว่าผลกำไรสุทธิ จะเพิ่มขึ้น
• โรงแรม C มี GOPPAR สูง แต่ไม่ได้หมายความว่าพนักงานมีประสิทธิภาพ

แนวทางแก้ไขข้อจำกัดของ GOPPAR

• วิเคราะห์ GOPPAR ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ
• เปรียบเทียบ GOPPAR กับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
• เปรียบเทียบ GOPPAR กับคู่แข่ง
• วิเคราะห์ GOPPAR แยกตามประเภทห้องพัก ประเภทลูกค้า หรือช่วงเวลา
• ระบุปัญหาและหาแนวทางแก้ไข

ตัวอย่างแนวทางแก้ไขข้อจำกัดของ GOPPAR

• โรงแรม A วิเคราะห์ GOPPAR ร่วมกับอัตราเข้าพัก พบว่าอัตราเข้าพัก ต่ำ โรงแรมควรพิจารณากลยุทธ์ด้านราคา และการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า
• โรงแรม B เปรียบเทียบ GOPPAR กับคู่แข่ง พบว่า GOPPAR ต่ำกว่า โรงแรมควรพิจารณากลยุทธ์ เพื่อเพิ่มราคาห้องพัก หรือลดต้นทุน

เพิ่มเติม

• GOPPAR เป็นเพียงตัวชี้วัดตัวเดียว ไม่ควรใช้เป็นตัวตัดสินใจเพียงตัวเดียว
• ควรวิเคราะห์ GOPPAR ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น อัตราเข้าพัก ราคาห้องพัก ต้นทุน
• ควรเปรียบเทียบ GOPPAR กับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และกับคู่แข่ง
• ควรวิเคราะห์ GOPPAR แยกตามประเภทห้องพัก ประเภทลูกค้า หรือช่วงเวลา
• ควรระบุปัญหาและหาแนวทางแก้ไข

ตัวชี้วัดอื่นๆ ที่คุณอาจจะสนใจ: รวมKPIsที่สำคัญสำหรับโรงแรม