EBITDA สำหรับธุรกิจโรงแรม
EBITDA ย่อมาจาก Earnings Before Interest, Taxes, Depreciation, and Amortization เป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่สำคัญสำหรับธุรกิจโรงแรม แสดงถึงจำนวนเงินที่โรงแรมทำกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายทางการเงิน ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย
วิธีการคำนวณ EBITDA
EBITDA = รายได้ - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน - ค่าเสื่อมราคา - ค่าตัดจำหน่าย
สมมติว่าโรงแรมมีรายได้ 100 ล้านบาท ต้นทุนขาย 50 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 20 ล้านบาท ค่าเสื่อมราคา 10 ล้านบาท ค่าตัดจำหน่าย 5 ล้านบาท
EBITDA = 100 - 50 - 20 - 10 - 5 = 15 ล้านบาท
การตีความ EBITDA
- EBITDA สูง หมายความว่า โรงแรมมีกำไรจากการดำเนินงานสูง
- EBITDA ต่ำ หมายความว่า โรงแรมมีกำไรจากการดำเนินงานต่ำ
ข้อดีของ EBITDA
- เป็นตัวชี้วัดที่วัดผลกำไรจากการดำเนินงานโดยไม่รวมผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย
- เป็นตัวชี้วัดที่เปรียบเทียบผลการดำเนินงานของโรงแรมได้ โดยไม่คำนึงถึงโครงสร้างเงินทุนและนโยบายการบัญชี
- เป็นตัวชี้วัดที่นักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์ธุรกิจโรงแรม
ข้อจำกัดของ EBITDA
- ไม่ได้วัดผลกำไรสุทธิ
- ไม่ได้วัดกระแสเงินสด
- ไม่ได้วัดความเสี่ยง
การใช้ EBITDA
- วิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
- เปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับคู่แข่ง
- ประเมินมูลค่าธุรกิจ
- ตัดสินใจลงทุน
EBITDA เป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับธุรกิจโรงแรม โรงแรมควรติดตาม EBITDA อย่างสม่ำเสมอ และใช้ EBITDA เพื่อวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน เปรียบเทียบกับคู่แข่ง ประเมินมูลค่าธุรกิจ และตัดสินใจลงทุน
ตัวชี้วัดอื่นๆ
- Revenue Per Occupied Room (RevPOR)
- Average Daily Rate (ADR)
- Occupancy Rate (OCC)
- Revenue Per Available Room (RevPAR)
- Customer Satisfaction Index (CSI)
- Net Promoter Score (NPS)
ตัวชี้วัดอื่นๆ ที่คุณอาจจะสนใจ: รวมKPIsที่สำคัญสำหรับโรงแรม